วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ทำไมเราปิ๊งคำตอบหรือไอเดียเจ๋งๆ ในห้องน้ำ (AHA moment, Eureka moment ~ The moment of INSIGHT)

AHA moment, Eureka moment - The moment of INSIGHT

                                                                             เรียบเรียงโดย นพ.มนตรี แสงภัทราชัย   (โค้ช SmartKid – Smart Leader Coaching)

 เมื่อพูดถึงคำว่า “EUREKA” ซึ่งเป็นภาษากรีกแปลว่า ฉันค้นพบแล้ว  ทุกคนย่อมคิดถึงอาร์คิมิดิส์ (Archimedes) นักปราชญ์ชาวกรีกที่โลกจดจำ ซึ่งเป็นทั้งนักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ นักฟิสิกส์ และวิศวกร ผู้ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบรรดานักวิทยาศาสตร์ชั้นนำในสมัยคลาสิก ผู้คิดค้นนวัตกรรมเครื่องจักรกลหลายชิ้น ที่โดดเด่นที่สุดชิ้นหนึ่งคือ ปั๊มเกลียว (screw pump)”  หนึ่งในนักคณิตศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ผู้ให้กำเนิดที่มาของวิชาแคลคูลัสสมัยใหม่ ผู้ที่คิดวิธีคำนวณพื้นที่ใต้เส้นโค้งพาราโบลา (parabola) ผู้กำหนดนิยามแก่ "วงก้นหอยของอาร์คิมิดีส (Archimedean spiral)" ผู้คิดค้นสมการหาปริมาตรของรูปทรงที่เกิดจากพื้นผิวที่ได้จากการหมุน (surface of revolution) และคิดค้นระบบสำหรับใช้บ่งบอกถึงตัวเลขจำนวนใหญ่มาก ๆ (exponentiation)
เรื่องเล่าที่รู้จักกันแพร่หลายที่สุดเกี่ยวกับอาร์คิมิดีส คือการที่เขาค้นพบกลวิธีในการหาปริมาตรของวัตถุซึ่งมีรูปร่างแปลก ๆ  สมัยพระเจ้าเฮียโรที่ 2 (King Hiero II) พระองค์ทรงขอร้องให้อาร์คิมิดีสช่วยตรวจสอบว่ามีการฉ้อโกงโดยผสมเงินลงไปในการสร้างมงกุฎทองคำบริสุทธิ์หรือไม่ โดยมงกุฎจะต้องไม่เสียหาย อาร์คิมิดีสใช้เวลาครุ่นคิดอยู่หลายวันก็ยังคิดไม่ออก วันหนึ่งขณะที่เขากำลังแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ เขาสังเกตว่าระดับน้ำในอ่างเพิ่มสูงขึ้นจนล้นอ่าง ทันใดนั้นเองก็เคยความคิดแว๊บขึ้นมาได้ว่า วิธีการนี้สามารถใช้ในการหาปริมาตรของมงกุฎได้ เพราะเมื่อมงกุฎถูกจุ่มลงไปในน้ำ ปริมาตรของน้ำที่ล้นออกมาย่อมเท่ากับปริมาตรของมงกุฎนั่นเอง เมื่อนำปริมาตรมาหารด้วยมวลของมงกุฎ ก็สามารถหาค่าความหนาแน่นของมงกุฎได้ ถ้ามีการผสมโลหะราคาถูกอื่นเข้าไป ค่าความหนาแน่นนี้จะต่ำกว่าค่าความหนาแน่นของทองคำ อาร์คิมิดีสวิ่งออกไปยังท้องถนนทั้งที่ยังแก้ผ้า ด้วยความตื่นเต้นจากการค้นพบครั้งนี้จนลืมแต่งตัว แล้วร้องตะโกนว่า "ยูเรก้า!" (แปลว่า ฉันค้นพบแล้ว!) การทดสอบจัดทำขึ้นอย่างประสบผลสำเร็จ และพิสูจน์ได้ว่ามีการผสมเงินเข้าไปในมงกุฎจริง  

      

หลายครั้งที่บางท่านพยายามคิดหาไอเดียใหม่ๆ หรือพยายามคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาที่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกซะที แต่วันดีคืนดีก็มีความคิดเจ๋งๆ หรือคำตอบที่แว๊บเข้ามาในหัว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตอนที่เราไม่ได้คิดเรื่องหนักหัวพวกนั้น เช่นขณะขับรถเพลินๆ ขณะกำลังอาบน้ำ หรือขณะทำภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำ ความคิดหรือคำตอบที่แว๊บเข้ามานั้นเร็วมากจนเรากลัวที่จะลืมต้องรีบหาอะไรมาจดไว้ซะก่อน ความคิดหรือคำตอบที่แว๊บเข้ามานั้นอาจเรียกชื่อว่าเป็นEureka moment (ยูเรก้า โมเม้นท์)หรือ Aha moment (อะฮ้า โมเม้นท์) หรือคำที่คนไทยใช้บ่อยๆ คือ ปิ๊งไอเดีย !บางท่านอาจเรียกว่าปิ๊งแว๊บ !


          นักวิทยาศาสตร์ทางด้านสมองและระบบประสาทได้ศึกษาปรากฎการณ์ “Eureka moment” และค้นพบว่าการปิ๊งไอเดียนั้น เป็นเหตุการณ์ช่วงสั้นๆ ที่คนคนหนึ่งเกิดญาณตระหนักรู้แจ้งเห็นจริงอย่างกระจ่างชัด (moment of insight) และการที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้ สมองของคนคนนั้นจะต้องรู้สึกผ่อนคลายเพื่อให้สมองส่วนหน้าซึ่งเป็นสมองด้านความคิด (executive area) สามารถส่งสัญญาณประสาทเชื่อมโยงกับสมองที่อยู่ด้านหลังได้ดีขึ้น ทำให้เกิดการกระตุ้นกลีบของสมองข้างขวาที่ชื่อว่า anterior superior temporal gyrus ซึ่งเป็นสมองพื้นที่เล็กๆ บริเวณเหนือใบหูด้านขวาของเรา เป็นที่บรรจุประสบการณ์การเรียนรู้รวมถึงสัญชาติญาณที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้สมองส่วนนี้มีหน้าที่รับผิดชอบทำให้เกิดการปิ๊งไอเดีย หรือ moments of insight 


นักวิจัยค้นพบว่าประมาณ 5 วินาทีก่อนที่เราจะเกิด “eureka moment” สมองเราจะสร้างคลื่นไฟฟ้าสมองที่มีความถี่อยู่ในช่วงอัลฟ่า (ความถี่ประมาณ 8 ถึง 12 เฮิร์ต) ซึ่งเป็นคลื่นไฟฟ้าสมองที่สามารถกรตุ้นกลีบสมองส่วน anterior superior temporal gyrus  

คลื่นความถี่อัลฟ่าเหล่านี้ปกติจะเกิดในขณะที่เราผ่อนคลาย ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงปิ๊งคำตอบหรือไอเดียเจ๋งๆ ได้ขณะที่เราไม่เครียด หรือขณะกำลังเดินเล่น หรือขณะขับรถฟังเพลง ขณะอาบน้ำ หรือแม้กระทั่งขณะที่เรากำลังประกอบกิจวัตรประจำวันในห้องน้ำ

References:

  1. http://en.wikipedia.org/wiki/Archimedes (Retrieved May 4th, 2015)
  2. Erin Brodwin. Here’s where ‘aha!’ moments come from. www.businessinsider.com (Retrieved May 5th, 2015)
  3. www.blog.pickcrew.com Posted by Mikael Cho (Retrieved May 5th, 2015)






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น