AHA moment, Eureka
moment - The moment of INSIGHT
เรียบเรียงโดย นพ.มนตรี แสงภัทราชัย (โค้ช SmartKid – Smart Leader Coaching)
เมื่อพูดถึงคำว่า “EUREKA” ซึ่งเป็นภาษากรีกแปลว่า
“ฉันค้นพบแล้ว” ทุกคนย่อมคิดถึงอาร์คิมิดิส์ (Archimedes)
นักปราชญ์ชาวกรีกที่โลกจดจำ ซึ่งเป็นทั้งนักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ นักฟิสิกส์ และวิศวกร ผู้ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบรรดานักวิทยาศาสตร์ชั้นนำในสมัยคลาสิก ผู้คิดค้นนวัตกรรมเครื่องจักรกลหลายชิ้น ที่โดดเด่นที่สุดชิ้นหนึ่งคือ
“ปั๊มเกลียว
(screw pump)” หนึ่งในนักคณิตศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ผู้ให้กำเนิดที่มาของวิชาแคลคูลัสสมัยใหม่
ผู้ที่คิดวิธีคำนวณพื้นที่ใต้เส้นโค้งพาราโบลา (parabola) ผู้กำหนดนิยามแก่ "วงก้นหอยของอาร์คิมิดีส (Archimedean spiral)" ผู้คิดค้นสมการหาปริมาตรของรูปทรงที่เกิดจากพื้นผิวที่ได้จากการหมุน (surface of
revolution) และคิดค้นระบบสำหรับใช้บ่งบอกถึงตัวเลขจำนวนใหญ่มาก
ๆ (exponentiation)
เรื่องเล่าที่รู้จักกันแพร่หลายที่สุดเกี่ยวกับอาร์คิมิดีส
คือการที่เขาค้นพบกลวิธีในการหาปริมาตรของวัตถุซึ่งมีรูปร่างแปลก ๆ สมัยพระเจ้าเฮียโรที่ 2 (King Hiero II) พระองค์ทรงขอร้องให้อาร์คิมิดีสช่วยตรวจสอบว่ามีการฉ้อโกงโดยผสมเงินลงไปในการสร้างมงกุฎทองคำบริสุทธิ์หรือไม่
โดยมงกุฎจะต้องไม่เสียหาย อาร์คิมิดีสใช้เวลาครุ่นคิดอยู่หลายวันก็ยังคิดไม่ออก วันหนึ่งขณะที่เขากำลังแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ
เขาสังเกตว่าระดับน้ำในอ่างเพิ่มสูงขึ้นจนล้นอ่าง
ทันใดนั้นเองก็เคยความคิดแว๊บขึ้นมาได้ว่า วิธีการนี้สามารถใช้ในการหาปริมาตรของมงกุฎได้
เพราะเมื่อมงกุฎถูกจุ่มลงไปในน้ำ ปริมาตรของน้ำที่ล้นออกมาย่อมเท่ากับปริมาตรของมงกุฎนั่นเอง
เมื่อนำปริมาตรมาหารด้วยมวลของมงกุฎ ก็สามารถหาค่าความหนาแน่นของมงกุฎได้
ถ้ามีการผสมโลหะราคาถูกอื่นเข้าไป
ค่าความหนาแน่นนี้จะต่ำกว่าค่าความหนาแน่นของทองคำ
อาร์คิมิดีสวิ่งออกไปยังท้องถนนทั้งที่ยังแก้ผ้า
ด้วยความตื่นเต้นจากการค้นพบครั้งนี้จนลืมแต่งตัว แล้วร้องตะโกนว่า "ยูเรก้า!" (แปลว่า ฉันค้นพบแล้ว!)
การทดสอบจัดทำขึ้นอย่างประสบผลสำเร็จ
และพิสูจน์ได้ว่ามีการผสมเงินเข้าไปในมงกุฎจริง
หลายครั้งที่บางท่านพยายามคิดหาไอเดียใหม่ๆ
หรือพยายามคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาที่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกซะที แต่วันดีคืนดีก็มีความคิดเจ๋งๆ
หรือคำตอบที่แว๊บเข้ามาในหัว
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตอนที่เราไม่ได้คิดเรื่องหนักหัวพวกนั้น เช่นขณะขับรถเพลินๆ
ขณะกำลังอาบน้ำ หรือขณะทำภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำ
ความคิดหรือคำตอบที่แว๊บเข้ามานั้นเร็วมากจนเรากลัวที่จะลืมต้องรีบหาอะไรมาจดไว้ซะก่อน
ความคิดหรือคำตอบที่แว๊บเข้ามานั้นอาจเรียกชื่อว่าเป็น “Eureka
moment (ยูเรก้า
โมเม้นท์)” หรือ “Aha moment (อะฮ้า โมเม้นท์)”
หรือคำที่คนไทยใช้บ่อยๆ คือ “ปิ๊งไอเดีย !” บางท่านอาจเรียกว่า “ปิ๊งแว๊บ !”
นักวิทยาศาสตร์ทางด้านสมองและระบบประสาทได้ศึกษาปรากฎการณ์ “Eureka moment”
และค้นพบว่าการปิ๊งไอเดียนั้น เป็นเหตุการณ์ช่วงสั้นๆ ที่คนคนหนึ่งเกิดญาณตระหนักรู้แจ้งเห็นจริงอย่างกระจ่างชัด
(moment of insight) และการที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้
สมองของคนคนนั้นจะต้องรู้สึกผ่อนคลายเพื่อให้สมองส่วนหน้าซึ่งเป็นสมองด้านความคิด (executive
area) สามารถส่งสัญญาณประสาทเชื่อมโยงกับสมองที่อยู่ด้านหลังได้ดีขึ้น
ทำให้เกิดการกระตุ้นกลีบของสมองข้างขวาที่ชื่อว่า anterior superior
temporal gyrus ซึ่งเป็นสมองพื้นที่เล็กๆ
บริเวณเหนือใบหูด้านขวาของเรา เป็นที่บรรจุประสบการณ์การเรียนรู้รวมถึงสัญชาติญาณที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้สมองส่วนนี้มีหน้าที่รับผิดชอบทำให้เกิดการปิ๊งไอเดีย
หรือ moments of insight
นักวิจัยค้นพบว่าประมาณ 5 วินาทีก่อนที่เราจะเกิด “eureka moment”
สมองเราจะสร้างคลื่นไฟฟ้าสมองที่มีความถี่อยู่ในช่วงอัลฟ่า (ความถี่ประมาณ 8 ถึง
12 เฮิร์ต) ซึ่งเป็นคลื่นไฟฟ้าสมองที่สามารถกรตุ้นกลีบสมองส่วน
anterior superior temporal gyrus
คลื่นความถี่อัลฟ่าเหล่านี้ปกติจะเกิดในขณะที่เราผ่อนคลาย
ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงปิ๊งคำตอบหรือไอเดียเจ๋งๆ ได้ขณะที่เราไม่เครียด
หรือขณะกำลังเดินเล่น หรือขณะขับรถฟังเพลง ขณะอาบน้ำ
หรือแม้กระทั่งขณะที่เรากำลังประกอบกิจวัตรประจำวันในห้องน้ำ
- http://en.wikipedia.org/wiki/Archimedes (Retrieved May 4th, 2015)
- Erin Brodwin. Here’s where ‘aha!’ moments come from. www.businessinsider.com (Retrieved May 5th, 2015)
- www.blog.pickcrew.com Posted by Mikael Cho (Retrieved May 5th, 2015)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น